หลาย คนก็อ่านหนังสือกันมา บางคนก็เรียนมาจากหลายแหล่งก็จะได้กันมาหลากหลายวิธีในการหาสินค้านะครับยืน ยันตรงนี้ก่อนว่าทุกวิธีดีเหมือนกันหมดนะครับการหาสินค้าเป็นขั้นตอนที่เสียเวลามากที่สุด แต่มันจะตอบแทนเรามากที่สุดครับ
1. Terapeak มาช่วยวิเคราะห์หาคำที่ลูกค้าเข้ามาหามากที่สุดแต่ก็ต้องยอมแลกกับค่า ธรรมเนียมรายเดือน และความเสี่ยงว่าสินค้าที่ลูกค้าต้องการหามันอาจจะยากเกินปัญญาเราที่จะหา ได้จากในประเทศ
2. Google word search หาคำจากเว็บต่างๆที่คนเข้ามาหากันมากที่สุดทั่วโลก แต่ความเสี่ยงคือ สินค้าหลายอย่างมันอาจจะไปเหมาะกันสินค้าที่ลงขายในอเมซอนมากกว่าอีเบย์ก็ ได้
3. ดูจากหน้าแรกในอีเบย์ วิธีนี้ทื่อๆ ง่ายที่สุดเพราะอีเบย์จะนำเอาสินค้าที่มีคนสนใจในช่วงเวลานั้นขึ้นโชว์แต่ก็ จะโดนผสมด้วยสินค้าจากร้าน หรือแม่ค้าที่เราฟอลโลว์อยู่หรือจากสินค้าที่เราไปกด Watchเอาไว้ผสมมาด้วยครับ
4. ใช้การเสิร์ชหาสินค้าจะขาย อันนี้ก็ง่ายแค่เข้าไป พิมพ์สินค้าที่เราอยากจะขาย ตั้งค่าให้โชว์เฉพาะ Sold listing เราก็จะเห็นว่าของที่เราจะขายว่าขายได้หรือไม่ราคาอยู่ที่เท่าไหร่ แต่เราไม่รู้เลยมั๊ยว่ามันขายดีจริงหรือเปล่าหรือแค่ฟลุคขายได้ (แนะนำเพิ่มว่าเมื่อรู้แล้วว่าของขายได้ ให้เอาเงื่อนไข sold listing ออกเพื่อที่เราจะได้เห็นว่าตอนนี้สินค้าตัวเดียวกับเราขายอยู่มากน้อยแค่ไหน และราคาเป็นอย่างไร ถ้าตอนนี้ลงขายกันมากมาย แถมราคาก็ถูกเหมือนเขวี้ยงหัวแจกกันก็อย่ามาลงขายให้เสียเวลาเลยครับ หาอย่างอื่นเถอะ)
5. เสริร์ชหารายการสินค้าที่ขายกันอยู่วิธีนี้ใช้กันเยอะ เพราะสร้างแรงบันดาลใจได้ดี ว่าอ๋ออันนี้ฉันหาได้ อันนี้ฉันมีเดี๋ยวฉันเอาลงขายมั่ง มันเป็นการหาที่ง่ายและเข้าข้างตัวเองมากที่สุด เพราะคุณก็จะกลายเป็นคนนึงที่เอาสินค้าแบบเดียวกันมาไล่แข่งราคากันเองใน ตลาด หรือที่เรียกว่า Red Ocean
6. หาสินค้าแบบตามใจฉันอันนี้ดีตรงที่ถ้าเป็นของแปลก น่าสนใจ เราสามารถตั้งราคาขายได้แบบแพงๆ เลย แต่ถ้าปรากฏว่ามันมีขายเกลื่อนในอีเบย์อยู่แล้วและคุณก็ไม่ได้ดูก่อนว่าขาย กันเยอะมั๊ย แถมดันลงราคาแพงๆ ไปอีกโอกาสขายได้ก้แทบเป็นศูนย์นะครับ ฉะนั้นใครสนใจวิธีนี้ผมแนะนำให้หาของเป็น ดูของออกว่าแบบไหนฝรั่งน่าจะสนใจ
7. หาแบบแห่ตามกระแสคือพอมีกาคาบข่าวจากแหล่งต่างๆ มาบอกว่าตอนนี้ชิ้นนี้ขายดี ขายแพง ถ้าแกขายดีงั้นฉันขายด้วย แบบนี้เหนื่อยแน่เพราะต้องมานั่งตัดราคากันลงไปเรื่อยๆท้ายสุดของชิ้นนั้นก็ หมดความน่าสนใจทันทีเพราะมันล้นตลาด
8. ขายแบบพี่ไทย คือเอาอะไรมาลงขายก็ได้อาศัยตั้งราคาถูกเรี่ยดิน เพื่อให้ลูกค้าซื้อ วิธีนี้ข้อดีคือโอกาสขายได้มากแต่โอกาสรวยน้อย เพราะไม่มีกำไร แถมถูกชาวบ้านรุมประนามหยามหมิ่น
9. เว็บช่วยหาของ Goofbid .com เว็บนี้จะช่วยคุณในการดูว่าสินค้าตัวไหนทำยอดขายมากที่สุด ด้วยการใส่คีย์เวิร์ดลงไปในช่องค้นหา มันจะแสดงตัวสินค้าในหมวดนั้นๆ ออกมาให้ดูว่าตัวไหนน่าสนใจครับ
10. Watchcount เว็บนี้คล้ายกับ goofbid แต่เว็บนี้ โชว์ผลจากสินค้าที่มีคนไปกด Watcher มากที่สุดขึ้นมาก่อน และบอกว่าขายได้เท่าไหร่อีกทีครับ
11. Googletrend ตัวนี้ มันจะช่วยเจาะว่าตัวสินค้าที่คุณค้นหา มันถูกหาจากที่ไหนมากที่สุด ซึ่งจะช่วยเราให้สามารถลงของได้ถูกที่ถูกทางครับ
ต่อไปนี้คือวิธีที่ผมแนะนำเพิ่มให้นะครับ
1. ขาย สินค้าตามเหตุการณ์ ฝรั่งเป็นพวกตกใจง่ายเวลาเจอเหตุอะไรก็ตื่นเต้นไปหมด ตอนรูมแบนเริมดัง มีคนถักชุดแซกมาขายได้ราคา 3ล้านเหรียญ ขายกันไปสิบกว่าตัว ก่อนจะหายไป ตอนที่แฟลปปี้เบิร์ดประกาศเลิกผลิตก็มีพ่อค้าหลายคนรวยด้วยเหตุการณ์นั้น ครับ แบบนี้ ขายได้ราคาสูงมาก แต่คุณก็ต้องขยันตามข่าวและมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอสินค้านั้นๆ
2. ขาย ตามเทศกาลแบบนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำห้ายได้ราคาสูง และจำนวนมากเพียงแค่คุณคอยศึกษาว่าในช่วงเดือนนี้เป็นเทศกาลอะไรของประเทศ ลูกค้าที่ต้องการขาย แล้วหาสินค้านั้นๆ มาขายล่วงหน้าครับฝรั่งชอบซื้อของเตรียมรับเทศกาลอยู่แล้วครับ
3. หา สินค้าแบบรูดปรื๊ด วิธีนี้ไม่มีใครสั่งสอนละไม่มีใครบอก ผมบอกเอง คือเสิร์ชหาสินค้าในอีเบย์ตามปกติ แต่ไม่ตั้งเงื่อนไขอื่นเอาเพียงข้อเดียวคือ Buy it now จากนั้นเอาเมาส์รูดไปบนตัวรายการสินค้าทีละตัวๆแล้วคุณจะเจอขุมทรัพย์ว่า สินค้าตัวไหนที่ขายได้จำนวนมากมันจะโผล่ขึ้นมาอัตโนมัติตามเมาส์เราครับ ทีนี้คุณจะรู้เลยว่าสินค้าไหนน่าขาย
4. หา สินค้าจากเว็บขายของอื่นๆ แล้วดูยอดออเดอร์ว่าตัวไหนมีลูกค้าสั่งกันมากบางเว็บมีโชว์ธงชาติด้วยว่า ประเทศไหนสั่งซื้อทีนี้คุณก็จะรู้แล้วว่าควรเอาสินค้าไหนขายให้ใคร
พอ ก่อนนะครับสำหรับวิธีขายสินค้า แค่นี้คุณก็ใช้ทำมาหากินได้นานแล้วครับจริงๆ การขายมันมีอยู่ 2 แบบเอง คือ “ขายสิ่งที่คุณอยากขาย และขายสิ่งที่ลูกค้าอยากซื้อ” เลือกกันเองเลยครับว่าชอบแบบไหน เดี๋ยววันหลังเราจะมาเจาะในแต่ละวิธีว่าเขาใช้งานกันอย่างไรบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น