วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แฉ!!!! พลีชีพบอกกลเม็ดในการขายพระเครื่อง หรือเครื่องรางทั้งที่ไม่มีความรู้

อยากขายพระ ขายเครื่องราง แต่ไม่มีความรู้ เขียนสตอรี่ไม่เป็นทำยังไงดี 

พี่คะเห็นพี่ไปขอใบอนุญาตประจำเลย พี่ขายยังไง หนูอยากขายมั่ง แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับพระเลย ไม่รู้จะเขียนไตเติลหรือดีเทลยังไงดี ไม่อยากโกหกลูกค้าด้วย ไม่สบายใจกลัวบาป


งั้นวันนี้ผมจะแฉวิธีการขายที่ง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องโกหกลูกค้า เพื่อความสบายใจ ไม่ต้องกลัวบาป ที่ใครก็ทำได้ให้ครับ

ขั้นแรกเลยการหาสินค้า
หลังจากสำรวจตลาดในอีเบย์เรียบร้อยแล้ว ว่าแบบไหนขายดี ขายได้ แบบไหนไม่ควรหามาขาย ก็ออกไปเดินตลาดพระได้เลย หากไม่มีความรู้อย่าพยายามไปหาพระแผง จะเหรียญ จะผง จะเนื้ออะไรก็ตามมาขาย เพราะตามแผงริมถนนนั้นปลอม 199% อ้อพูดผิด พระปลอมไม่มี มีแต่ไม่ได้ปลุกเสกครับ แต่หากซื้อมาแล้วก็ไม่เป็นไร พยายามมองหาของแปลกเข้าไว้ อะไรที่แปลกขายได้เสมอ หรือลองของใหญ่ไปเลยก็ได้ อย่าหาพระรุ่นดังๆ หรือพระรางวัล (ปลอมๆ) พร้อมกับใบเซอร์ปลอมๆ มาขาย หากไม่อยากลำบากใจ ไม่อยากบาปในใจตัวเอง ที่จะต้องมาโกหกว่าแท้แบบนั้นแบบนี้ หรือหากอยากสบายใจที่สุดก็เข้าหาร้านที่ขายพระแท้เลยก็ได้

ขั้นสองการเขียนไตเติลและดีเทล
ตอนเช่าของอย่าลืมถามร้านสักหน่อยว่าสิ่งที่ซื้อมาเขาเรียกว่าอะไร เนื้ออะไร วัดไหน ปีไหน พยายามหาข้อมูลมาให้มากที่สุด อย่าลืมจดมานะครับ จำอย่างเดียวไม่ถึงบ้านก็ลืมหมดแล้ว ทีนี้พอถึงบ้านเอาชื่อ รุ่นหรือปีที่ได้มามาหาข้อมูลใน google ดู หาหลายๆ เว็บแล้วเอาข้อมูลมาสรุป ไม่ต้องห่วงเรื่องสั้นหรือยาว พยายามให้ข้อมูลครอบคลุมมากที่สุด ให้ได้ประโยชน์ทั้งทางด้านวัตถุ และด้านจิตใจ ประวัติ จุดเด่นมีอะไรบ้าง เอามาอ้างอิงให้หมด 

ทีนี้บางทีหากหาข้อมูลแล้วไม่เจอ หรือเจอแล้วไม่เหมือนที่ซื้อมา ให้เราใช้วิธีการค้นหาด้วยรูปในกูเกิล เพื่อให้ระบบมันไปตามหารูปที่ไกล้เคียงกับของเรามากที่สุด เพื่อเอาเป็นข้อมูลอ้างอิงได้ พอหาได้แล้ว เอามาเขียนสรุปเรื่องได้เลย ยิ่งอภินืหารลูกค้ายิ่งชอบ ไม่เชื่อลองไปหาดูของขลังที่ฝรั่งขายดีๆ จะเจอนิยายแทบทั้งเรื่องกันเลยทีเดียว สำคัญคืออย่าไปโกหกอะไรลูกค้าครับ อย่าอึกอักก็ Antique ไว้ก่อน เพราะจริงๆ กฏอีเบย์แอนทีคนี่มันต้อง 80 ปีขึ้นไปนะ


ขั้นสามการตั้งราคา
ก่อนลงขายก็ศึกษาข้อมูลคนอื่นสักหน่อยว่าเขาขายกันอยู่เท่าไหร่ แล้วเราควรจะขายเท่าไหร่ อย่าไปพยายามตัดราคากัน เพื่อให้ของตัวเองขายได้ เพราะหากเราตัดกันลงไปเรื่อยๆ คุณก็จะยิ่งไปกดฐานราคาพื้นที่ลูกค้าจะเอาไว้เปรียบเทียบให้มันต่ำลงเรื่อยๆ ทีนี้คราวหน้าก็ยากที่จะเพิ่มราคาให้สูงได้

แต่หากสินค้าของคุณมีความแปลก ไม่ซ้ำใคร ไม่เคยมีใครขายมาก่อน หรือทำขึ้นเอง แบบนี้สนุกเลย ราคาไม่มีฐานมาเปรียบเทียบ ทำราคาเองได้เลยครับ แต่ก็ไม่ควรจะสูงเวอร์มากมายเกินไป เพราะหากสินค้าของคุณมันไม่เจ๋ง ไม่เก่า ไม่โบราณจริง เดี๋ยวจะเจ็บหนักจากเคสที่จะโดนครับ


ขั้นสี่การส่งของ
นี่ก็เป็นเรื่องน่าปวดหัว เริ่มตั้งแต่การแพค คุณต้องหาวิธีที่จะแพคให้แน่นหนาที่สุด แข็งแรงที่สุด แข็งแรงขนาดไหน ให้ทดลองแพค ยอมเสียสละพระแบบเดียวกันสักองค์นึง แพคให้เหลือพื้นที่รอบองค์พระไม่ต่ำกว่าข้างละ 5" และแพคพระลงไปตรงกลางให้ขยับไม่ได้เลยสักมุมเดียว แพคเสร็จปิดกล่อง มัดเหมือนส่งจริง จากนั้นโยนครับ โยนเลย หลายๆ รอบ โยนลงพื้นหลายๆ ครั้ง แล้วดูผลว่าพระที่แพคยังอยู่ดีหรือไม่ หากแตก ลองหาสาเหตุว่าทำไมพระถึงแตก ตรงไหนหลวม ตรงไหนขยับได้ จะได้แก้ไขได้

อีกเรื่องพระทุกองค์ต้องขออนุญาตส่งออกจากกรมศิลปากร (ขั้นตอนการขอผมเขียนเขียนบล๊อกไว้แล้ว ลองไล่อ่านย้อนหลังดูครับ) ซึ่งขั้นตอนการขอนี่ใช้เวลาตั้งแต่ 4-7 วัน ฉะนั้นหากอยากขายพระ Handling time เผื่อไว้เลยสักสิบวัน อย่าผูกมัดเวลาสั้นๆ เดี๋ยวเอาเข้าจริงส่งไม่ได้ก็เดือดร้อนอีก

เรื่องลงทะเบียน และการซื้อประกัน นี่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านเลยครับ หากขายแพง ของเสี่ยงแตกง่ายนี่ซื้อไว้เถอะ ปลอดภัยกว่า

วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ ยาวมากเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน เดี๋ยววันหน้าผมมาเพิ่มเติมให้อีกครับ
โชคดีในการขายครับทุกท่าน

เอ กันตภณ

Ebayguide Slow Life ให้ได้ตังค์ พื้นที่กลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และประสบการณ์ในการขายสินค้าบนอีเบย์ แบบไม่มีค่าย ไม่มีสังกัด งดเว้นการก่อดราม่า โต้เถียง หรือล่วงเกิน กลุ่มหรือสถาบัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งทุกกรณีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

สิบขั้นง่าย ๆ ที่ทำไม่ง่ายก่อนจะก้าวสู่ยอดขายระดับล้าน

พี่คะเห็นพี่คนนั้นคนนี้เขาขายของได้เดือนละเป็นล้านสองล้านเลย หากหนูอยากได้บ้างต้องทำยังไงคะ???? อันดับแรกเลิกบ่นครับ งานเยอะปัญหาเยอะเป็นเร...