วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

หาสินค้าขายแบบไม่ใช้แอปส์เสียเงิน ดูง่ายๆ แต่ไม่ง่ายนะ

มีเพื่อนถามว่าผมหาของอย่างไร ทำไมมีสินค้ามาโชว์ได้ทุกวัน และมันดูแปลกกว่าคนอื่น 

จริงๆ ผมมีกระบวนการหาของหลายสเตปมากครับ เพราะมันไม่ใช่แค่หา แต่ต้องวิเคราะห์ให้เป็นด้วยว่าอะไรน่าขาย อะไรไม่น่าหยิบมาขายให้เปลืองลิสต์ และเสียเวลาทำ วันนี้จะขอมาเล่าวิธีเบสิคที่ใช้ก่อนแล้วกันครับ

วิธีนี้เราหลายคนรู้กันอยู่แล้วและก็ทำกัน แต่ผลที่ได้อาจต่างกันไปครับ ลองดูวิธีผมใช้ง่ายๆ ก่อนแล้วกันครับ

1. หาของจากหน้าแรกอีเบย์



วิธีนี้เบสิคสุด ผมเชื่อว่าของถ้าไม่สำคัญ ไม่เจ๋งจริง อีเบย์ไม่จัดขึ้นหน้าหนึ่งแน่ ฉะนั้นเวลาที่เปิดหน้าอีเบย์ ผมจะเลือกที่หมวดหมู่สินค้าที่ผมสนใจ แล้วเข้าไปดูว่า สินค้า best match ในหมวดนั้นๆ ตัวใหนเด็ด ตัวไหนขายดี ตัวใหนเราหาได้ หาเจอแล้วลองมาวิเคราะห์ความน่าขายกันดูครับ

2. หาของจาก Advance Serch

อันนี้ก็เบสิค ที่ไม่ว่าที่ไหนก็สอนให้เราหาของขายจากที่นี่ เพียงแต่ผมทำให้มันไม่เบสิคตรงที่ ผมใช้วิธีส่วนตัวคือหา Sub Keyword เพื่อให้เจอสินค้าต่างจากคนอื่นครับ 
ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติผมอยากขายหิน ทุกคนก็จะนึกถึง Stone และก็หาสินค้าด้วยคีย์เวิร์ดนั้นๆ มันก็จะออกมาเหมือนกันหมด  ผมจะใช้วิธีคิดคีย์เวิร์ดหาคำอื่นที่เกี่ยวข้อง เอามาให้มากที่สุด แล้วมากดหาดู ทีนี้เราจะเจอสินค้าที่คนอื่นหาไม่เจอ และมีความหลากหลายกว่าการหาด้วยคำตรงๆ 

**** หลักของผมเลยคือผมไม่หาของเป็นหมวดๆ ใช้ All Catagories เพื่อให้ได้เจอของที่หลากหลายมากกว่าเดิมครับ

3. Item Location 

เลือกสินค้าจากแหล่งขาย ปกติ เราๆ ส่วนใหญ่ก็จะตั้งเป็น Thailand ด้วยเหตุผลว่า สินค้าที่หาได้จะได้เป็นของที่เราหาได้ทั่วไปเหมือนกัน ไม่ลำบากในการหาของขาย แต่ผมไม่ตั้ง ผมอยากดูของที่เขาขายกันทั่วโลก แล้วค่อยมาวิเคราะห์ว่าเราหาเองได้มั๊ย 

แล้วหาแบบนั้น ผมมองหาอะไรมาขาย ผมดู 2 เรื่องครับ คือของขายดี ขายได้ เป็นยังไง ลองดูรูปนี้ครับ

แบบนี้ผมเรียกว่าขายดี เพราะยอดขายมันอลังการมาก

ส่วนนี่ของขายได้ครับ ผมมองที่ราคาขายเป็นหลัก หากขายแล้วขาดทุน ขายแล้วกำไรน้อยผมไม่เอา ลูกผมไม่ได้กินตัวเลขฟีดแบค แต่ต้องใช้เงินไปแลกของกินมา ฉะนั้นของที่ผมจะขายต้องมีกำไรที่น่าสนใจ ผมถึงจะเลือกมาขายครับ 

แถมๆ ในระหว่างกำลังหาสินค้า พยายามเหลือบตามองข้างๆด้วย แล้วคุณจะเจอสินค้าแนะนำแบบง่ายๆครับ ไม่ต้องไปตามหามากมาย


นี่เป็นสเตปง่ายๆ แต่ใช้เวลามากมายในการนั่งดูสินค้าของผมทุกคืนครับ และพอได้สินค้ามาแล้ว ผมต้องมาวิเคราะห์ต่อเรื่องแหล่ง ราคา กำไร การส่งอีกหลายขั้นตอนกว่าจะตัดสินใจเลือกอะไรสักตัวมาขายครับ ไม่ใช่ว่าเจอปุ๊บหยิบมาขายทันที ทำแบบนั้นมันง่าย แต่มันขายไม่ค่อยออกครับ

โชคดีในการขายครับ เพื่อนๆ ทุกท่าน









Ebayguide Slow Life ให้ได้ตังค์ พื้นที่กลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และประสบการณ์ในการขายสินค้าบนอีเบย์ แบบไม่มีค่าย ไม่มีสังกัด งดเว้นการก่อดราม่า โต้เถียง หรือล่วงเกิน กล่มหรือสถาบัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งทุกกรณีครับ

เขาบอกอะไรให้เราทำอีเบย์ แล้วอะไรที่เขาไม่บอก

Smoot As Silk บางเบาเหมือนขนนก ตกลงมาก็ไม่เจ็บ







เวลาที่เราไปถามรุ่นพี่ทั้งหลาย ว่าไม่รู้จะขายอะไรดี พี่ๆ ก็จะแนะนำให้เราไปหาของไกล้ตัวสิ ของต้นทุนต่ำสิ ของนั่นของนี่สิ และประโยคมาตรฐานที่เราจะเจอบ่อยที่สุดคือ หาของเบาๆ ค่าส่งถูกๆ ต้นทุนต่ำๆ มาขายสิ

คุ้นมั๊ยครับ คำนี้ คำที่เราน่าจะได้กลับมาทุกคน พี่ๆ เขาตอบมาถูกต้องแล้วครับ สำหรับมือใหม่ ที่ยังติดลิมิตอยู่ คุณไม่ควรไปลงทุนกับอะไรที่ทุนมันแพง ค่าส่งสูงเพราะของหนัก เนื่องจากพี่ๆ เขาไม่อยากให้ทุนเราต้องจมอยู่ในสินค้าครับ ฉะนั้นทำตามได้ก็เป็นเรื่องดี เกิดปัญหาก็เจ็บตัวเล็กน้อย แต่.....

หากคุณทำมาสักพักใหญ่แล้ว  แล้วยังนั่งฝังใจเรื่องของเบา ค่าส่งถูก ต้นทุนต่ำ ทำไปนานเข้า ท้ายสุดคุณจะกลายเป็นเหมือนนักขายส่วนใหญ่ ที่ไม่กล้าแตะของต้นทุนสูง น้ำหนักเยอะ เพราะมัวแต่กังวลว่า หากเอาของทุนสูงมาลงขาย ทุนก็จะจม กว่าจะขายได้ แถมถ้าน้ำหนักมากค่าส่งก็มากเป็นเงาตามตัว และเวลามีปัญหาก็อาจบาดเจ็บจากเรื่องการรับเข้า จ่ายเงินออก สรุปเลยนั่งหาของเบาๆ ถูกๆ ค่าส่งน้อยๆ มาขายต่อไป และน่าแปลกที่คนกลุ่มนี้มีเยอะมากเสียด้วย สรุปสินค้าที่เอามาขายก็เลยกลายเป็นของเหมือนๆ กัน ซ้ำกันจำนวนมาก หากอยากขายได้ก็เลยต้องแข่งกันตัดราคาให้ไม่เหลืออะไร

แล้วรุ่นพี่เขาไม่บอกอะไรคุณ...... คือคนที่รวยส่วนนึงจากอีเบย์นี่ขายแต่ของต้นทุนสูง และของหนักแทบทั้งสิ้น ไม่ค่อยมีใครมานั่งขายของเบาๆ ถูกๆ เหมือนที่เขาบอกเราหรอกครับ บอกไปคุณก็จะกลายไปเป็นคู่แข่งกันเอง สู้บอกให้ไปหาของถูกๆ มาขายนั่น ปลอดภัยดี เขาจะได้ขายของได้ ไม่มีคู่แข่ง



ฉะนั้นครับ เมื่อเวลาเริ่มมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้นแล้ว คณก็ควรจะหัดขยับยอดราคาสินค้าตัวเองให้เป็น อย่านั่งจมอยู่กับของเบาๆ ถูกๆ อีกต่อไป เพราะยิ่งทำแบบนั้นนานเท่าไหร่ คุณก็จะสั่งสะกดจิตตัวเองไว้แค่นั้น ไม่กล้าทำมากกว่านั้น กังวลไปทุกเรื่อง จนไม่กล้าขยับอะไรทั้งสิ้นครับ แล้วแบบนี้อีกนานแค่ไหนเราถึงจะไปแตะยอดเสาธงที่เราใฝ่ฝันถึง

ยิ่งปรับตัวได้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ครับ เพราะคนเราไปได้ไม่ไกลเกินความคิด คิดใหญ่ก็หนึ่งคิด คิดเล็กก็หนึ่งคิดครับ

โชคดีในการขายครับพี่น้อง

Ebayguide Slow Life ให้ได้ตังค์ พื้นที่กลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และประสบการณ์ในการขายสินค้าบนอีเบย์ แบบไม่มีค่าย ไม่มีสังกัด งดเว้นการก่อดราม่า โต้เถียง หรือล่วงเกิน กล่มหรือสถาบัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งทุกกรณีครับ

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559

ต่อยอดอีเบย์ เทพื้นแน่นหรือยัง

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ ก่อนหยุดสงกรานต์ อยากเขียนเรื่องยาวๆ ไว้ให้ได้อ่านกันครับ เอาไว้อ่านเพลินๆ ยามว่างถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ

ทุกวันนี้เห็นเพื่อนผมหลายคน ตระเวณตามหาสุดยอดฝีมือ เพื่อถ่ายทอดกลเม็ดเคล็ดลับขั้นสูงสุดให้ หวังว่าจะช่วยให้ยอดขายของตัวเองพุ่งกระฉูด แต่ไปเรียนมาหลายที่ หมดเงินไปหลายอัฐ แต่ทำไมยอดขายมันไม่เห็นจะทยานเหมือนที่หวัง บางคนนอกจากจะไม่เพิ่มขึ้นแล้ว กลับตกลงมาอีกด้วย




ผมขอยกตัวอย่างบางอาชีพที่ได้สัมผัสมาให้เพื่อนๆ ได้ลองคิดเปรียบเทียบกับงานขายอีเบย์ดูก็แล้วกันนะครับ อีกงานที่ผมทำมาสิบกว่าปี คือการขายประกันและวางแผนการเงิน ภาษีและการลงทุน ฟังดูดีมั๊ยครับ ลองมารู้จักมันกัน งานขายประกันทุกคนจะรู้ว่ามันยากมาก ยากขนาดที่มีคนพูดว่าถ้าคุณขายประกันได้คุณก็ขายของได้ทุกประเภท ทีนี้พองานมันยาก กว่าจะได้เบี้ยแต่ละหมื่นจากลูกค้าก็เหนื่อยมาก คนก็เลยไม่อยากเข้ามาทำ หัวหน้าหน่วยก็หาตัวแทนใหม่มาทำยากขึ้น 

จนวันนึงมีอาชีพใหม่เกิดขึ้นคือนักวางแผนการเงิน และที่ปรึกษาทางการเงิน ชื่องานมันดูดีมาก ดูหรู ดูน่าเชื่อถือ และที่สำคัญเวลาวางแผนการเงินครั้งนึงเนี่ยมันได้เบี้ยเป็นแสนหรือเป็นล้าน  ไม่ใช่หลักพันหลักหมื่นเหมือนประกันปรกติ บรรดาหัวหน้าหน่วยก็เลยเอาตำแหน่งนี้ไปชักชวนคนมาทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งมันก็ตรงกับจริตคนไทยที่ชอบชื่อหรูๆ ดูดี พิมพ์ตำแหน่งใส่นามบัตรแล้วมันเท่ และเก็บเบี้ยได้ทีละเป็นแสน คนก็เลยเข้ามาทำงานมากขึ้น แถมตอนสมัครเข้าทำงานก็มีการเฉลยข้อสอบขอใบอนุญาตต่างๆ มากมายให้อ่าน ไม่ต้องรู้จริง รู้แค่คำตอบก็พอ

แต่..... ตั้งแต่เริ่มงานคนใหม่ทุกคนก็จะมองแต่สินค้าที่สามารถเก็บเบี้ยได้สูงๆ ทีละเป็นแสนเป็นล้าน ซึ่งมันคือกลุ่มการลงทุน ที่ตัวเลขผลประกอบการมันจะล่อหลอกให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น โดยไม่มองสินค้าประกันที่เป็นพื้นฐานในการทำงาน การบริการลูกค้า เป็นสินค้าที่เหมาะสำหรับลูกค้าทุกคน มุ่งหน้าเสาะแสวงสุดยอดหาเทคนิคแอดวานซ์ที่จะพาคนไปลงทุนพอร์ตใหญ่ๆ ได้

เวลาผ่านไปคนพวกนี้ที่จริงๆ แล้วไม่ได้สนใจการเงินการลงทุนใดๆ เลย ไม่รู้ภาวะความผันผวนใดๆ ทั้งสิ้น รู้แต่ว่าจะเอาสินค้าใดไปชวนลูกค้าลงทุน พอระบบเศรษฐกิจโดยรวมมันรวน พอร์ตต่างๆ ที่พาลูกค้าทำก็ขาดทุน รวนไปด้วย ลูกค้าก็หนีตีจาก จะให้คนพวกนี้กลับไปขายสินค้าประกันก็ทำไม่เป็น เบี้ยมันน้อย ไม่อยากทำ ท้ายสุดก็ค่อยๆ หายไปจากอาชีพ ออกจากงานกันไป 

ทั้งที่จริงๆ แล้วงาน วางแผนการเงินมันทำได้หลากหลายมากทั้ง
- วางแผนระบบการเงินตั้งแต่เกิดจนตาย
- วางแผนภาษีทั้งบุคคลและบริษัท
- วางแผนสวัสดิการต่างๆ
- วางแผนประกันชีวิต สุขภาพ และอุบัติเหต
- วางแผนการลงทุน
- วางแผนประกันภัยต่างๆ
- วางแผนประกันหนี้สิน และอื่นๆ อีกหลายแบบ

แต่คนเหล่านี้รู้จักแต่วิธีที่จะขายของแพง รู้เทคนิคขั้นสูงมากมาย แต่.... ไม่รู้จักเลยว่าเบสิคจริงๆ ของงานมันคืออะไร มันสำคัญอย่างไร ฉะนั้นครับหากคุณเจอตัวแทนที่พิมพ์บนนามบัตรมาว่าเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แต่พอชวนคุยเรื่องการเงินอย่างอื่นกลับไม่รู้เรื่องเลย รู้แต่ว่าจะพาเราไปลงทุน วางแผนระบบการเงินทั้งชีวิตให้เราไม่ได้ แสดงว่านั่นน่ะของปลอมครับ

เอาล่ะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับนักขายยังไง ทุกวันนี้เราเข้ามาขายอีเบย์เพราะเราอยากได้เงินล้านแบบที่เคยได้ยินมากันทั้งนั้น เข้ามาได้ เราก็จะพยายามหาสุดยอดเทคนิค สุดยอดกลเม็ดเคล็ดลับ มองหาแต่อะไรที่คนอื่นเรียกว่าแอดวานซ์ เพื่อที่จะมาต่อยอดการขายของตัวเองให้สูงสุด แต่ลองถามตัวเองดูก่อนครับ ว่าทุกวันนี้ เรารู้เรื่องพื้นฐานการขาย พื้นฐานการตลาดมากแค่ใหน เทคนิคการเขียน การต่อรองต่างๆ เรารู้อะไรบ้าง หรือรู้แค่ลงขายยังไงเท่านั้น

- เรามองหาสินค้า ดู วิเคราะห์ แยกแยะได้แค่ไหนว่าอะไรควร หรือไม่ควรขาย
- เราวิเคราะห์การแข่งขันในตลาดได้แค่ไหน หรือรู้แค่ว่ามีคนขายชิ้นนี้แพงฉันก็จะเอาลงขายด้วย
- ไปเดินตลาดกับคนอื่น คุณมองหาอะไรนอกจากดูว่าคนอื่นเขาขายอะไร จะได้หามาขายด้วย
- ดูสินค้าชิ้นเดียวกัน เรารู้มั๊ยว่าเราจะเอามาทำยังไงให้มันขายได้แพงกว่าคนอื่น
- รู้มั๊ยว่าควรตั้งราคาให้สูงขนาดไหน เราถึงได้กำไรที่สมควร หรือรู้แค่ว่าต้องตัดราคาให้ของขายได้
- รู้มั๊ยว่าขายแล้วจะผูกมัดใจลูกค้ายังไงให้กลับมาซื้อเราอีก
- รู้มั๊ยว่าหากไม่มีคนอื่น แล้วเราไปเดินเลือกสินค้าคนเดียวเราควรจะเลือกอะไรมาขาย
- รู้มั๊ยว่าปัญหาต่างๆ เราจะแก้อย่างไรด้วยตัวของเราเอง
- รู้มั๊ยว่าของแบบเดียวกันจะถ่ายรูป หรือทำอย่างไรให้มันขายได้
- รู้มั๊ยว่าลิมิตความเสี่ยงในเรื่องของราคาสินค้า หรือสินค้าชนิดไหนที่เราควรขายหรือไม่ควร
- รู้มั๊ยว่าวิธีการแบบไหนที่เราควรใช้หรือไม่ควรใช้ แบบไหนไม่ควรไปเลียนแบบ
- และอีกหลายเรื่องควรรู้

ฉะนั้นครับ ก่อนจะพยายามต่อยอดตึกให้สูงขึ้นไป ลองหันกลับมามองพื้นล่างก่อนว่าฐานคุณแน่นหรือยัง เพราะหากฐานคุณไม่มั่นคงพอ แล้วพยายามต่อแต่ยอดให้สูงขึ้น สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่นานฐานคุณก็จะถล่ม พังเสียหายไปเองครับ

โชคดีในการขายครับพี่น้อง
เอ กันตภณ

Ebayguide Sloe Life ให้ได้ตังค์ พื้นที่กลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และประสบการณ์ในการขายสินค้าบนอีเบย์ แบบไม่มีค่าย ไม่มีสังกัด งดเว้นการก่อดราม่า โต้เถียง หรือล่วงเกิน กล่มหรือสถาบัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งทุกกรณีครับ

สิบขั้นง่าย ๆ ที่ทำไม่ง่ายก่อนจะก้าวสู่ยอดขายระดับล้าน

พี่คะเห็นพี่คนนั้นคนนี้เขาขายของได้เดือนละเป็นล้านสองล้านเลย หากหนูอยากได้บ้างต้องทำยังไงคะ???? อันดับแรกเลิกบ่นครับ งานเยอะปัญหาเยอะเป็นเร...