ขั้นตอนการส่งออกพระพุทธรูปออกไปต่างประเทศ
วันนี้ไปทำเรื่องส่งออกพระมาครับ เลยมาเล่าขั้นตอนให้ผู้ที่ยังกังวลสับสนเรื่องการส่งออกได้ทราบกัน
สมัยก่อนเราต้องไปขอใบอนุญาตส่งออกที่กรมศิลปากร ตรงวัดเทวสุนทร เทเวศน์
โดยไปกรอกเอกสารก่อน จากนั้นรออีก 2 วัน แล้วเอาพระไปให้ตรวจอนุมัติ แล้วรออีกสามวัน
หากเรื่องผ่าน ใบอนุญาตก็จะออกมาครับ แต่.... ตอนนี้ระบบมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
มาดูกันว่าขั้นตอนใหม่เขาทำยังไงครับ
1.
เริ่มจากไปที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ สนามหลวง
ไปที่ห้องกองควบคุมโบราณวัตถุ โดยเตรียม
a.
องค์พระที่ต้องการส่งออก
b.
สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ของผู้ที่จะส่ง
c.
ชื่อ ที่อยู่ผู้รับ
d.
รูปถ่ายองค์พระหน้าตรงขนาด 4x6 จำนวน 2 ใบเหมือนกัน
พื้นหลังขาว ไม่มีอะไรมาร่วมในรูป และต้องอัดรูปมาเท่านั้นไม่ใช่พิมพ์ออกมา
แบบนั้นโดนตีกลับอย่างเดียวครับ
e.
ใบเสร็จรับเงินจากร้านที่เช่าพระ
f.
แนะนำให้ไปวันจันทร์ อังคารคนจะน้อย
วันอื่นคนเพียบ
2.
ในห้อง ท่านยื่นเอกสารทุกอย่างให้กับพนักงาน
แกะพระตั้งบนโต๊ะ แล้วนั่งรออย่างสงบเสงี่ยม พูดน้อยๆ
เข้าไว้แล้วเรื่องจะเสร็จเร็ว แต่หากไปโชว์เก๋าที่นั่น พูดเยอะเกินความจำเป็น พระของคุณอาจจะไม่ผ่านอนุมัติได้
นั่งรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบพระ เจ้าหน้าที่ที่นี่ใจดีทุกคน ยิ้มแย้ม พูดจาดี เขาถามอะไรก็ค่อยตอบ
ไม่ต้องไปบรรยายอะไรมากมายครับ
3.
หลังตรวจเสร็จ
เจ้าหน้าที่ก็จะเอาลวดมาผูกกับองค์พระและปั๊มตะกั่วลงไป แล้วกรอกข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์
เสร็จแล้วเขาจะให้เลขเข้าระบบคอมพิวเตอร์กับคุณ ถือเป็นอันเสร็จสิ้นงานในวันนี้
4.
วันต่อมา เข้าไปที่เว็บ http://nsw.finearts.go.th/ เพื่อตรวจสอบว่าคำขอของคุณอนุมัติหรือไม่
หากอนุมัติแล้ว ข้อมูลจะเข้าไปที่ รอการชำระค่าธรรมเนียม
จากนั้นคุณก็พิมพ์ฟอร์มชำระเงิน นำไปจ่ายที่ธนาคารกรุงไทย
ค่าธรรมเนียม
ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ณ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ค่าธรรมเนียมศิลปวัตถุประเภทพระพุทธรูป สมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ถึงปัจจุบัน
- ขนาดยาวหรือสูงเกิน ๑๐๐ เซนติเมตร
ชิ้นละ ๓๐๐ บาท
- ขนาดยาวหรือสูงเกิน ๕๐ เซนติเมตร แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เซนติเมตร
ชิ้นละ ๒๐๐ บาท
- ขนาดยาวหรือสูงไม่เกิน ๕๐ เซนติเมตร
ชิ้นละ ๑๐๐ บาท
ค่าธรรมเนียมศิลปวัตถุ สมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ถึงปัจจุบัน
- ขนาดยาวหรือสูงเกิน ๑๐๐ เซนติเมตร
ชิ้นละ ๒๐๐ บาท
- ขนาดยาวหรือสูงเกิน ๕๐ เซนติเมตร แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เซนติเมตร
ชิ้นละ ๑๐๐ บาท
5. หลังชำระเงิน
วันต่อมาให้เข้าเว็บอีกครั้งเพื่อตรวจสอบว่าใบอนุญาตออกแล้วหรือยัง
หากออกแล้วก็ไม่ต้องดีใจไป เดี๋ยวจะรีบพิมพ์ออกมาแล้วส่งของทันที เพราะมีแค่ใบอนุญาตศุลกากร
กับสายการบินก็จะไม่ให้พระของคุณขึ้นเครื่องไปเพราะยังไม่มีตั๋วขึ้นเครื่องครับ
(สายการบินบอกใบอนุญาตแบบนี้ใครก็พิมพ์ปลอมออกมาได้ ซึ่งก็มีคนทำแบบนั้นจริงๆ
ตอนนี้เขาเลยเข้มงวดมากครับ) ให้ท่านรีบโทรไปติดต่อที่กรมศิลปากรอีกครั้ง
เพื่อให้เขาออกบัตรผ่านให้ครับ (สำหรับบริษัทส่งออกเอกชน เช่น DHL
เขาสามารถพิมพ์ใบอนุญาตส่งออกแล้วนำส่งได้เลยโดยไม่ต้องรอบัตรครับ)
6. หลังรับสายเขาจะพิมพ์บัตรให้ท่านสองใบ
เสร็จแล้วให้ท่านรีบไปรับมาเพื่อส่งของครับ
a.
บัตรสีชมพู ให้ท่านนำไปแขวนไว้กับพระพุทธรูปเพื่อยืนยันการอนุญาตส่งออก
ก่อนบรรจุกล่องให้แน่นหนา
b.
บัตรสีฟ้า เพื่อยืนยันการจ่ายค่าธรรมเนียมศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
ให้เอาใบนี้ยื่นกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ตอนส่งของครับ ใบนี้แทน CN 22 ได้เลย
c.
เพียงท่านทำครบขั้นตอนตามนี้
พระของท่านก็จะขึ้นเครื่องได้อย่างไม่มีปัญหา
ไม่โดนตีกลับมาให้ต้องปวดหัวเรื่องเคลียร์เงินคืนให้ลูกค้าครับ
ข้อมูลนี้ได้จากการขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในวันนี้ครับ
หากมีความคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ต้องขออภัยด้วย
ปล. แล้วพระแบบไหนที่ต้องขออนุญาตส่งออก
ตอนนี้พระพุทธรูป เครื่องราง กุมารทอง ฤาษี นางกวัก หรืออะไรที่มีลักษณะลอยตัว เป็นหุ่น เป็นรูปปั้นต้องขอหมดทุกองค์ครับไม่มีข้อยกเว้น ของที่ส่งออกได้เลยคือพวกพระเครื่องแขวนคอ องค์เล็กๆ ครับ ส่วนท่านที่ชอบแอบส่งเศียรพระจะเล็กจะใหญ่ วันนี้อาจส่งได้ ไม่โดนจับ โดนคืนของ แต่วันหน้าหากโดนจับได้ ท่านอาจโดนเคลียร์คดีย้อนหลังเอานะครับ ระวังกันไว้ด้วย
โชคดีครับทุกท่าน
เอ กันตภณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น