วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560

อยากขายของ ต้องหามันให้เจอ

 อยากจะขายของในอีเบย์มาก แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไง ทำยังไง วันนี้ผมมีคำตอบมาให้ครับ

เราทุกคนมาเหมือนกันหมด อยากขายของออนไลน์ เพราะรู้สึกว่ามันไม่น่ายาก เห็นใคร ๆ ก็บอกว่ามันง่าย ขายดี ขายแล้วรวย แต่เอาเข้าจริงมันกลับไม่ง่ายเลย ไม่รู้จะเริ่มจับต้นชนปลายยังไง เข้าไปหาข้อมูลที่ไหนก็เจอแต่ปัญหา เจอแต่เรื่องราวจนสับสนไปหมด จนเวลาผ่านไปเป็นปีๆ ก็ยังไม่ได้เริ่มสักที งั้นวันนี้ผมจะขอเล่าวิธีเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดก่อน มันเริ่มด้วยการ "หา" ครับ และต้องหาให้เจอด้วย
มาเริ่มต้นกันเลย 
(หมายเหตุ กรุณาหามันด้วยตนเอง อย่ารอความหวังและอย่ามัวรอคนใจดีมาบอกเรื่องสินค้า เพราะทั้งชีวิตคุณมารอแบบนั้นไม่ได้แน่ครับ และอย่ารีบเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดจนกว่าคุณจะได้ข้อมูลอ้างอิงที่ถูกต้องครับ)

สิ่งที่ต้องหาช่วงก่อนการขาย
1. หาตลาดให้เจอว่าเราอยากขายของในโซนไหน เพราะอีเบย์มีหลายโซนราคาขายก็ต่าง ความต้องการก็ต่าง

2. หาชื่อสินค้า หรือชื่อหมวดหมู่ กลุ่มสินค้าที่เราสนใจ เน้นว่าเราต้องสนใจ เพราะหากไปฝืนขายในสิ่งที่เราเองยังไม่ชอบ โอกาสขายได้มันก็น้อยลงครับ
2.1 หาของขายดี Popular Selling เมื่อได้ชื่อหรือหมวดสินค้าแล้ว ก็ต้องหาต่อว่าสินค้าในหมวดนั้น หน้าตาแบบใหนขายดี ของประเภทเดียวกันไม่ได้ขายดีเหมือนกันหมดครับ
2.2 หาของที่ลูกค้าสนใจ Popular Watching คือหาสินค้าที่มีคนมาติดตาม หรือค้นหาเยอะมากๆ ในหมวดนั้นๆ
2.3 หาช่วงเวลาของสินค้า สินค้าบางชิ้นหากไม่ได้เป็นของกินของใช้ประจำวัน มันจะไม่ได้ขายออกตลอดเวลา แต่มันจะมีช่วงเวลาของมัน มีเทศกาลของมัน ฉะนั้นดูให้ได้ว่าของนั้นมันขายดีตอนไหน เดือนใหน อย่ารีบเชื่อเวลาที่มีคนมาบอกคุณว่าไอ้นั่นไอ้นี่ขายดีขายได้ จงหาคำตอบที่แท้จริงก่อน
2.4 หาราคาจริง หากสินค้าเรามีคนขายกันอยู่มากมาย ก็ต้องหาให้ได้ว่าราคาต่ำสุด ราคากลาง ราคาสูงสุดที่ขายกันคือเท่าไหร่ เราเอามาขายแล้วคุ้มทุนมั๊ย ได้กำไรเท่าไหร่ อย่าแห่ตามของที่ขายแล้วขาดทุน และอย่าไปตั้งราคาของเราให้มันสูงโดดไปจากราคาของคนอื่น เพราะหากของคุณมีคนอื่นขายอยู่ ยังไงลูกค้าก็เลือกของถูกก่อนครับ
 2.5 หาราคาค่าส่ง เช็คให้ดีว่าค่าส่งสินค้าชิ้นนั้นมันเท่าไหร่ ค่ากล่อง ค่าอุปกรณ์การแพค ค่าเดินทางเท่าไหร่ หลายคนพลาดมาขาดทุนเอาก็ตรงน่าส่งนี่แหละครับ
2.6 หาข้อห้าม เงื่อนไข กฏเกณฑ์ต่างๆ ในการขายสินค้าชิ้นนั้นๆ อย่าไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น และอย่าอ้างว่าไม่รู้
2.7 หาวิธีการส่งของ ทำยังไงของที่ส่งจะไม่สูญหาย จะไม่เสียหาย แตกหักระหว่างทาง กล่องเสียบ กล่องฝาประกบ ซองต่างๆ ข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร
2.8 หาคู่แข่ง ดูว่าของที่เราสนใจมีคนขายกันอยู่เยอะมั๊ย ถ้ามันเยอะมากก็ต้องมาดูว่าคุ้มค่าในการโดดลงไปแข่งขันในตลาดนั้นมั๊ย 
2.9 หาวิธีการที่แตกต่างที่จะทำให้ของเราขายได้ และแตกต่างไปจากของที่คนอื่นขายอยู่เพื่อไม่ต้องไปแข่งเรื่องราคา
2.10 หาแหล่งสินค้า ไม่ใช่หาแค่ว่าอะไรขายอยู่ตรงใหน แต่จงหาว่าร้านส่ง โรงงานผลิตอยู่ใหน ทำยังไงให้ต้นทุนที่เราได้มามันจะถูกกว่าของคนอื่น เพราะยิ่งถูกคุณก็ยิ่งได้กำไรมากกว่าคนอื่น และหาของที่ดีมีคุณภาพ อย่าหาแต่ของต้นทุนถูกแต่คุณภาพต่ำมาขายครับ เดี๋ยวมันจะเรียกแขก
เมื่อหาทุกอย่างได้แล้วก็ลงสนามเลยครับอย่ามัวรั้งรอ

สิ่งที่ต้องหาช่วงทำการขาย
3. หาจุดดีจุดด้อยของรายการขายของคุณเพื่อไปแข่งกับคนอื่น
4. หาโปรโมชั่น มาสร้างจุดกระตุ้นยอดขายตลอดเวลา
5. หาวิธีคุยกับลูกค้าให้สบายใจ และไม่โกรธเวลาที่มีปัญหา
6. หาทางออกของปัญหาที่ดีที่สุด สมูทที่สุด ทำให้โดนเคสน้อยที่สุด และการคืนเงินลูกค้าเป็นวิธีสุดท้ายที่เราจะทำเวลาเกิดปัญหา
7. หาสินค้าใหม่ตลอดเวลา

สิ่งที่ต้องหาช่วงหลังการขาย
8. หาวิธีสร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้าให้ยาวนาน
9. หาวิธีขยายตลาด เพิ่มยอดขาย และการเพิ่มยอดการซื้อซ้ำจากลูกค้า
10. หาตลาดใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยง

หาสิ่งเหล่านี้ให้เจอครับ เราจะได้ทำการขายอย่างสบายใจ ส่วนเรื่องของปัญหาในการขายต่างๆ ไม่ต้องรีบไปหามัน เดี๋ยวมันมาหาเราเอง มาเมื่อไหร่ก็ค่อยไปหาทางแก้ครับ ปัญหามีได้ก็แก้ได้อย่ากังวล เพราะเมื่อคุณหาทุกเรื่องที่ผมบอกมาแล้ว ปัญหาต่างๆ ก็จะน้อยมากหรือแทบไม่มีเลยครับ




Ebayguide Slow Life ให้ได้ตังค์ พื้นที่กลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และประสบการณ์ในการขายสินค้าบนอีเบย์ แบบไม่มีค่าย ไม่มีสังกัด งดเว้นการก่อดราม่า โต้เถียง หรือล่วงเกิน กลุ่มหรือสถาบัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งทุกกรณีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

สิบขั้นง่าย ๆ ที่ทำไม่ง่ายก่อนจะก้าวสู่ยอดขายระดับล้าน

พี่คะเห็นพี่คนนั้นคนนี้เขาขายของได้เดือนละเป็นล้านสองล้านเลย หากหนูอยากได้บ้างต้องทำยังไงคะ???? อันดับแรกเลิกบ่นครับ งานเยอะปัญหาเยอะเป็นเร...